คอร์สวันเสาร์: เรียนเดือนละ 4 ครั้ง ค่าเรียนแบบเหมาเดือน เดือนละ 3,500 บาท (ชำระเป็นครั้ง ครั้งละ 1,000 บาท) **ค่าเอกสารเรียนแรกเข้า จำนวน 2,000 บาท ตลอดปี**
เดือน ตุลาคม มีนาคม, เมษายน, พฤษภาคม "บ้านกฤตยา" เปิดสอนหลักสูตรพิเศษเพื่อปรับพื้นฐานให้แก่นักเรียนจากโรงเรียนทั่วไป ในรายวิชา ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เชาวน์ปัญญา การฟัง การคิดวิเคราะห์ และความรู้รอบตัว เพื่อปรับทักษะทางวิชาการจากกิจกรรมการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนสามารถสร้างจินตภาพ เข้าใจในที่มาที่ไป เหตุและผล ให้สอดคล้องกับแนวข้อสอบเข้าโรงเรียนในเครือสาธิต อีกทั้งยังมีกิจกรรมสนุกๆ อาทิเช่น กิจกรรมทดลองวิทย์ ทดลองเชาวน์ กิจกรรมศิลปะประดิษฐ์เชิงคณิตศาสตร์ และฐานการเรียนรู้ เกมการศึกษาอื่นๆ อีกมากมาย
เริ่ม จันทร์ที่ 1 ตุลาคม ถึง วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2567
เรียน วันจันทร์ ถึง วันศุกร์
เวลา 9:00 ถึง 15:00 น.
ค่าเรียน:
เดือนตุลาคม 9,000 บาท
เดือนมีนาคม 9,500 บาท
เดือนเมษายน 8,500 บาท
เดือนพฤษภาคม 8,500 บาท
(ค่าเอกสารเรียนจำนวน 500 บาท ชำระครั้งเดียว)
สำหรับวันจันทร์ถึงศุกร์ มีครูเวรรอรับส่งนักเรียน ตั้งแต่เวลา 7:30 - 17:30 น. ค่ะ
ศิษย์เก่าหลากหลายรุ่นหลายระดับของบ้านกฤตยา ที่เข้าไปเป็นสมาชิกในรั้วสาธิตเกษตร
วิธีการสอน
ครูผู้สอนหน้าชั้นเรียน จะอธิบาย แนะนำ ยกตัวอย่าง ให้เทคนิคการหาคำตอบในเนื้อหาแบบฝึกหัดแต่ละข้อ เมื่อนักเรียนเข้าใจดีแล้ว ครูผู้สอนจึงอ่านโจทย์ 1 ครั้ง และให้นักเรียนทุกคนพยายามทำแบบฝึกหัดด้วยตนเองก่อน ใครที่มีปัญหา ฟังโจทย์ไม่ทัน ติดขัดทางการคิด ขาดทักษะความรู้ ครูผู้ช่วยจะเข้าไปช่วยเหลือ อธิบาย แนะนำให้เพิ่มเติม
เมื่อนักเรียนทุกคนทำแบบฝึกหัดกันเรียบร้อยแล้ว ครูผู้สอนก็จะเฉลยคำตอบ มาวิเคราะห์กันว่าสิ่งที่เด็กๆ ทำไปนั้น ถูก-ผิด อย่างไร คุณครูจะได้แก้ไขความเข้าใจของเด็กๆ ให้ถูกต้อง ครูผู้สอนจะแนะนำเทคนิคการคิด การแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ นักเรียนจะได้เรียนรู้ขั้นตอนการทำโจทย์ ค่อยๆฝึกฝนปฏิบัติให้เคยชิน คุ้นเคยจนเป็นธรรมชาติ ก่อเกิดเป็นความชำนาญและแม่นยำในที่สุด
การมีอารมณ์ร่วมในชั้นเรียนของเด็กๆ นั้นไม่สามารถเกิดขึ้นได้กับการฝึกทำแบบฝึกหัดเองที่บ้านกับผู้ปกครอง และการป้อนข้อมูลแบบใกล้ชิดโดยตรงให้กับเด็กนั้นไม่สามารถฝึกทักษะในการฟัง และการคิดด้วยตนเองในระยะยาวได้
แบบฝึกหัดทุกชุดที่ใช้เรียน เป็นแบบฝึกหัดที่ออกแบบมาจาก ข้อสอบเก่าของสาธิตเกษตรจริงในแต่ละปีที่ผ่าน โดยจะครอบคลุมเนื้อหาวิชาภาษาไทย คณิตศาสตร์ การฟัง ความรู้รอบตัว การคิดวิเคราะห์ และภาพเชาวน์ โดยจะเริ่มต้นด้วยบทเรียนขั้นพื้นฐาน เพื่อปรับสภาพผู้เรียนให้มีความเข้าใจในบริบทของการเรียนรู้ โดยจะใช้สื่อการสอนและเทคนิคต่างๆ มาช่วยพัฒนาเพื่อให้ผู้เรียนสามารถสร้างจินตภาพ เข้าใจเหตุและผลในเนื้อหาการเรียนรู้นั้นๆ ให้ดีพอ
ในห้องเรียนมีจำนวนนักเรียนไม่เกิน 30 คน นอกจากจะมีครูผู้สอนหน้าชั้นเรียน 1 คน แล้วจะมีครูอีก 3 คน ที่จะคอยช่วยเหลือ ดูแล อธิบายเพิ่มเติมในกรณีที่เด็กยังไม่เข้าใจหรือทำไม่ได้ เมื่อเด็กๆ ทุกคนทำแบบฝึกหัดกันเสร็จแล้ว ครูหน้าชั้นเรียนจะทำการเฉลยคำตอบโดยการ วิเคราะห์ข้อที่ถูกและข้อที่ผิดอย่างละเอียด นักเรียนจะเข้าใจ เรียนรู้ และจดจำในขั้นตอนการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้องอย่างมีระบบ เมื่อผู้เรียนเริ่มมีความคุ้นเคยในระบบการคิดดีแล้ว ในขั้นต่อไปก็จะค่อยๆ เพิ่มระดับความเข้มข้นในด้านเนื้อหาและการแก้ไขโจทย์ขึ้นมาตามลำดับ จนกระทั่งถึงระดับเทียบเท่าข้อสอบจริง ซึ่งจะจัดให้มีการทดสอบเสมือนจริง Pretest ในทุกๆ สิ้นเดือน และมีการประเมินผลให้ผู้ปกครองทราบในทุกครั้ง
เนื่องจากอายุของผู้เรียนยังอยู่ในช่วงเด็กปฐมวัย การเรียนการสอนจึงต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่เร่งรัดและยัดเยียดให้ในสิ่งที่เด็กไม่รับ ครูผู้สอนต้องจะเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาการของผู้เรียนแต่ละคนเป็นอย่างดี เด็กที่สามารถ ฟัง คิด วิเคราะห์โจทย์ได้ ต้องมาจากการฝึกฝนบ่อยๆ ไม่ใช่มาจากการท่องจำ ครูผู้สอนเป็นเพียงผู้สนับสนุน เป็นผู้ช่วยในการปรับเพิ่มองค์ความรู้ต่างๆ เท่านั้น
เมื่อผู้เรียนได้ฝึกฝนบ่อยครั้งจนเกิดเป็นความคุ้นเคยอย่างเป็นธรรมชาติ ก่อเกิดเป็นความชำนาญในการคิด วิเคราะห์ แก้โจทย์ปัญหาต่างๆ ได้ดีมาก จึงเป็นที่มาว่าทำไมเด็กของเราถึงสามารถทำแบบฝึกหัดข้อสอบในขั้นยากมากเหมือนข้อสอบจริง โดยไม่มีความกดดันใดๆ นักเรียนของเรามีความสนุกและรู้สึกถึงความตื่นเต้น ท้าทายในการที่จะแก้ไขปัญหาของโจทย์ใหม่ๆ อยู่เสมอ และที่สำคัญนักเรียนจะมีความพร้อมสูงมากพอเพื่อพิชิตข้อสอบสาธิตได้ทุกข้ออย่างง่ายดาย
เพราะทีมงานครูผู้สอนของเราเป็นครูปฐมวัยโดยตรง ไม่เหมือนสถาบันติวเตอร์ที่อื่นๆ ครูของเราจึงมีความเข้าใจและมีเทคนิคในการสอนเด็กในช่วงวัยนี้เป็นอย่างดี ครูจะจัดกิจกรรมสร้างสรรค์สันทนาการต่างๆ ให้กับผู้เรียน ทั้งก่อนเรียน และช่วงพัก (ซึ่งจะมีการพักเล็กทุกๆ 15 นาทีของการเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนมีความกระตือรือร้น เปิดสมองการรับรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลาและจะช่วยลดความตึงเครียดต่างๆ ให้กับผู้เรียนได้ดี) เป็นกิจกรรมสนุกๆ เสริมสร้างสมาธิ เพิ่มทักษะทางการคิด สติปัญญา ฝึกการสังเกต การแก้ไขปัญหา และได้ฝึกการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การทำงานร่วมกันเป็นทีม ความสามัคคี การช่วยเหลือตัวเอง ช่วยเหลือผู้อื่น เพิ่มความอดทน ความมั่นใจ ความแข็งแกร่งในการตัดสินใจของเด็กๆ เป็นอย่างดี
**รับสมัครนักเรียนทั่วไปเพื่อทำข้อทดสอบ เสมือนทำ ข้อสอบสาธิต จริง "Pretest" ก่อนสอบจริง ในวันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม (สมัครล่วงหน้าอย่างน้อย 1 สัปดาห์) เพื่อเป็นการฝึกให้ผู้เรียน มีความคุ้นเคยในการทำข้อทดสอบ รู้จักที่จะฟังโจทย์หรือคำสั่งให้เข้าใจได้ครบถ้วนด้วยตนเอง และสามารถนำข้อมูลไปคิดวิเคราะห์ผ่านขั้นตอนความรู้ที่ได้เรียนมา และกล้าที่จะตัดสินใจทำข้อทดสอบได้ด้วยตัวเอง ผู้ปกครองจะสามารถประเมินพัฒนาการของเด็ก และจะช่วยลดความตึงเครียดให้กับเด็กในเวลาที่จะต้องไปสอบในวันจริงอีกด้วย ติดต่อสมัครได้ที่เบอร์ 065-419-2694
จากประสบการณ์สอนซึ่งเป็น โรงเรียน ติวสอบสาธิต มากว่า 17 ปี ในแต่ละปี นักเรียนสอบเข้าสาธิตเกษตร ได้จริงถึง 40% ของเด็กทั้งหมดที่มาเรียน ซึ่งที่ผ่านมาโรงเรียนของเราไม่เคยทำโฆษณาการตลาดใดๆ มีแต่ผู้ปกครองเก่าๆ ช่วยสนับสนุนบอกต่อกันมา จึงยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ศิษย์เก่าบ้านกฤตยาหลากหลายรุ่นที่เป็นเด็กในรั้วสาธิตกระโปรงม่วง
เพราะไม่ใช่เพียงแค่การติวเข้าสาธิตเท่านั้น ทีมงานครูผู้สอนของเราได้รับการฝึกอบรมมาอย่างดี จึงมีวิธีการสอนอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่กดดัน สอนโดยการใช้สื่อการสอนต่างๆ เพื่อให้เด็กสามารถสร้างจินตภาพ เข้าใจเหตุผลที่มาที่ไปขององค์ความรู้ต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้เด็กจดจำและนำไปใช้ในการแก้ไขปัญหาในโจทย์ข้อสอบต่างๆ ได้อย่างเป็นระบบ เด็กๆ จะมีความสุขและรู้สึกสนุกสนานในการเรียน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เด็กต้องไม่รู้สึกเครียดในเวลาเรียน เด็กต้องเรียนด้วยความเข้าใจด้วยความสนุก โดยได้รับแรงกระตุ้นสนับสนุนจากครูทั้งหลาย เด็กต้องมีอิสระในการคิดแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้เป็นอย่างดี และต้องมีความสุขในการเรียนรู้
โรงเรียนสาธิตเกษตร รับนักเรียนเข้าชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้ปีละ 280 โดยแบ่งเป็น
1. เด็กลูกหลานอาจารย์ในมหาวิทยาลัย, สมาคมผู้ปกครอง, สมาคมศิษย์เก่า, สิทธิอาจารย์ระดับสูง, สิทธิ จากอื่นๆ รวม 150 คน
2. เป็นเด็กที่สอบได้เองจริงจำนวน 130 คน
ชุดที่ 1 เป็นเรื่องวิชาการ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ความรู้รอบตัว
ชุดที่ 2 เป็นเรื่องความถนัด (GAT/PAT) สติปัญญา และเชาวน์ปัญญา
ความสำคัญในแต่ละข้อมีความหมายมาก จุดประสงค์ของการ ติวสอบเข้าสาธิต คือ การที่เด็กของเราสามารถทำข้อสอบให้ได้จำนวนมากที่สุด เพราะผู้เข้าสอบร่วม 4,000 คน แต่รับจริงได้แค่ 130 คน คิดเป็นเพียงแค่ร้อยละ 4 เท่านั้น
1. ทักษะทางภาษาไทย ผู้สอบควรอ่านออกเขียนได้ในระดับดี เพราะในการแก้ปัญหาโจทย์หลายข้อ ต้องมีการจด ทด เพื่อกันลืม และถ้าเด็กๆ สามารถอ่านคำตอบได้เอง ก็จะสร้างความมั่นใจในการเลือกข้อที่ถูกต้องได้ดียิ่งขึ้น เนื่องจากอาจารย์ในห้องสอบจะอ่านโจทย์และคำตอบแค่ครั้งเดียวเท่านั้น และข้อสอบวัดความสามารถทางภาษาไทยก็มีจำนวนไม่น้อย
2. ทักษะทางคณิตศาสตร์ ผู้สอบควรบวกลบเลขได้คล่องแคล่วแม่นยำ, บวกเลขจำนวนเดิมซ้ำกันหลายๆ ครั้งได้ และสามารถแก้โจทย์ปัญหาสองชั้นได้ดี เด็กที่ยังต้องนับนิ้วอาจจะใช้เวลาเกินกว่าที่กำหนดให้
3. ทักษะความรู้รอบตัว ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ สังคม และประสบการณ์ชีวิตในระดับ ป.1 - ป.2
4. มีสมาธิในการฟังที่ดี เพราะอาจารย์ในห้องสอบจะอ่านโจทย์และคำตอบเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
5. มีความอดทนสูง อดทนที่จะอยู่กับคนแปลกหน้า แปลกสถานที่ อดทนที่จะตั้งใจฟัง ตั้งใจคิด และยังถูกกดดันด้วยข้อสอบที่แสนยาก เวลาที่ใช้ในการสอบเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมง
6. มีความมุ่งมั่น มั่นใจในการเข้าสู่สนามสอบ นั่นหมายถึง เด็กที่มีความพร้อมทั้งร่างกาย จิตใจ สมอง อารมณ์ และความรู้ที่เต็มเปี่ยม
7. มีความแม่นยำ รวดเร็วในการคิด ตอบปัญหาได้อย่างรอบคอบได้เป็นอย่างดี
**เด็กที่ผ่านการฝึกฝนจากบ้านกฤตยานั้นมีความพร้อมในระดับดีมาก ทั้ง 7 ข้อ**
ปัจจุบันมีสถาบัน ติวสาธิต มากมาย ซึ่งติวเตอร์สาธิตทั่วไปอาจไม่ใช่ครูผู้สอนเด็กปฐมวัยโดยตรง จึงขาดความเข้าใจในภาวะของเด็กแต่ละคน ผู้สอนจะพยายามให้ความรู้แก่เด็กให้มากๆเข้าไว้ แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญในปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ จึงเกิดปัญหาว่าเด็กรับไม่ได้ในที่สุด สิ่งที่สอนไปก็แค่ผ่านสมองผ่านหูผ่านตาเด็กไป แต่เด็กนำไปใช้งานไม่เป็น ผลคือเด็กจะรู้สึกกดดันและเครียด จึงไม่สามารถทำข้อสอบได้ การสอนไม่ใช่แค่ทำแบบฝึกหัดอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆร่วมด้วยอีกมากมาย
สิ่งสำคัญที่สุด ถึงแม้จะสอบไม่ติดสาธิต ก็ไม่ใช่ทุกอย่างในชีวิตจะสิ้นหวัง เพราะความรู้และทักษะรอบด้านที่ดีนั้นจะติดตามตัวผู้เรียนไป ซึ่งเด็กๆ เหล่านี้จะมีความสุขในการไปเรียนต่อชั้นประถมศึกษา ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนใดก็ตาม เค้าจะเป็นผู้นำเพื่อน จะมีความมั่นใจและภาคภูมิใจในตัวเอง ที่สามารถเรียนรู้และเข้าใจบทเรียนใหม่ๆ ได้ดีกว่าคนอื่น
ติวสาธิตกับบ้านกฤตยา จึงเป็นตัวเลือกที่ดีและตอบโจทย์มากที่สุดสำหรับเด็กและผู้ปกครอง
ผู้ปกครองสามารถปรึกษาและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้โดยตรงกับ
อาจารย์เปิ้ล ที่เบอร์ 065-419-2694, ไลน์ไอดี pockymylove
สถานที่เรียน โรงเรียนอนุบาลกฤตยา ซอยแจ้งวัฒนะ 14
ดู แผนที่ Kritaya Home ใน Google Map ขนาดใหญ่กว่า หรือดู แผนที่แบบปกติ